Malindi ชายหาดซ่อนแอบจากประเทศ เคนย่า
เคนย่า หนึ่งในประเทศแถบแอฟริกาที่มีชื่อเสียงไม่ต่างจากประเทศอื่น โดยเฉพาะภูมิทัศน์ต่างๆที่ดูจะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และถ้าพูดถึงประเทศแห่งนี้เราคงจะต้องนึกถึงหนึ่งในการ์ตูนหลายๆเรื่องที่นำเอาประเทศนี้มาเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นไลออนคิง การ์ตูนอีกมากมายที่โลเคชั่นหลักๆเห็นบ่อย ก็คงจะหนีไม่พ้นทุ่งหญ้าสะวันนาหรือซาฟารี
ด้วยลักษณะแบบนี้สิ่งที่สามารถเห็นได้จากภูมิประเทศแบบทุ่งหญ้าที่เห็น มักจะเป็นแหล่งรวมของสัตว์หลายๆสายพันธุ์หลายๆชนิดอยู่ในที่เดียวกัน
แต่ใครจะคิดว่าประเทศเคนยาที่อยู่จะโดดเด่นในเรื่องของป่า ดันทะเลมาแอบซ่อนอยู่ แต่จะว่าไปทะเลแห่งนี้ก็ไม่นับว่าเป็นการแอบซ่อนสักเท่าไหร่ เพราะเอาเข้าจริงๆแล้วทะเลที่ว่านี้ก็อยู่ติดดอกด้านนึงของประเทศเคนย่า และชื่อที่เรียกกันนั้นคือ Malindi หรือ มาลินดี
ต้องบอกก่อนที่โดยส่วนใหญ่นั้นไม่คิดว่าที่ประเทศเคนย่าจะมีทะเลอยู่เพราะอย่างที่บอกว่าด้วยภูมิประเทศหลักๆแล้วจะเห็นเป็นทุ่งหญ้าส่วนใหญ่ และบางคนอาจจะขนานนามว่าเป็นความแห้งแล้งอย่างนึงบนผืนแผ่นดินใหญ่ด้วยซ้ำ สนามเวลาที่พูดถึงประเทศนี้สิ่งที่นึกออกคือความแห้งแล้งกับป่าหญ้า แต่สำหรับทะเลที่พูดถึงนั้นจะอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ แน่นอนว่าทะเลแห่งนี้นั้นไม่ได้มีเรื่องของความไม่น่าเที่ยว เพราะจะว่าไปแล้วนี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวยุโรปและชาวเอเชียบางส่วนนิยมเข้ามาเพื่อที่จะมาพักผ่อน
โดยชายฝั่งหรือหาดที่กำลังพูดถึงนี้อยู่ในแนวเดียวกับอุทยานแห่งชาติทั้ง 2 แห่งของประเทศ ที่มีชื่อว่า Watamu และ Malindi ต้องบอกเลยว่าชายหาดดูจะมีอะไรมากกว่าที่คิดเพราะถึงแม้ว่าภูมิประเทศโดยรวมจะดูแห้งแล้ง แต่ถ้าได้มีโอกาสมาเห็นทะเลที่ประเทศเคนย่าบอกได้เลยว่าจะไม่เป็นอย่างที่คิด ขอทะเลที่นับว่าสวยไม่แพ้กับทะเลในประเทศไทย หาดทรายสีขาวตัดกับน้ำสีฟ้า ที่สำคัญสภาพแวดล้อมหรือสิ่งแวดล้อมต่างๆที่อยู่ภายใต้พื้นทะเลแห่งนี้ยังเรียกได้ว่าอุดมสมบูรณ์
เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกเลยพี่ชายหาดฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศแห่งนี้จะได้รับความนิยมจากนักดำน้ำทั่วโลก และที่สำคัญเพียงแค่ขับรถจากสนามบินมาถึงที่ชายหาดใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น และนั่งเรือออกไปไม่ไกลก็เป็นจุดที่สามารถลงไปดำน้ำได้ ซึ่งสามารถเลือกได้อย่างตามใจชอบหรือว่าอยากจะดำน้ำแบบสกูบ้าหรือเป็นแบบตื้น
แต่บางครั้งได้มาเปิดประสบการณ์ที่ประเทศแห่งนี้รับรองว่าคงจะไม่ได้แค่ชาร์จแบตให้กับร่างกายเพียงอย่างเดียว เพราะบางครั้งอาจจะได้อะไรสบายใจอะไรใหม่ๆเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น